เมนูนำทาง
กลอนสุภาพ กลอน 9ตามหลักฐานทางวรรณคดีไทย กลอน 9 พบครั้งแรกในกลบทศิริวิบุลกิตติ สมัยอยุธยาตอนปลาย[2] เช่นเดียวกัน แต่กวีไม่ค่อยนิยมแต่งกันมากนัก เนื่องจากเห็นว่ากลอนแปดลงตัวมากที่สุด
คณะ กลอนเก้า บทหนึ่งประกอบด้วย 2 บาท บาทละ 2 วรรค วรรคละ 9 คำ ตามผัง
O O O O O O O O O | O O O O O O O O O | |
O O O O O O O O O | O O O O O O O O O |
สัมผัสนอก ให้มีสัมผัสระหว่างคำสุดท้ายวรรคหน้ากับคำที่สามของวรรคหลังของทุกบาท และให้มีสัมผัสระหว่างบาทคือคำสุดท้ายของวรรคที่สองสัมผัสกับคำสุดท้ายวรรคที่สาม ส่วนสัมผัสระหว่างบท กำหนดให้คำสุดท้ายของบทแรก สัมผัสกับคำสุดท้ายวรรคที่สองของบทถัดไป
สัมผัสใน ไม่บังคับ แต่หากจะให้กลอนสละสลวยควรมีสัมผัสระหว่างคำที่สามกับคำที่สี่หรือคำที่ห้า หรือระหว่างคำที่หกกับคำที่เจ็ดหรือคำที่แปดของแต่ละวรรค
ตัวอย่างกลอน 9นายชายพรานหนึ่งชาญไพรล่ำใหญ่ขยับ | ได้ยินกลองเดิรย่องกลับดูขับขัน | |
มือป้องหน้ามุ่งป่าแน่วแนวแถววัน | สุนัขย่องสุดมองขยันติดพันตาม |
มุ่งปะทะมาปะที่คนตีกลอง | เพื่อนทักจ๋าพูดหน้าจ้องพรานร้องถาม | |
เดิมแรกหูได้รู้เหตุสังเกตความ | ว่าทรงนามว่าทรามนาฎนิราศจร | |
— กลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง, ศิริวิบุลกิตติ, หลวงปรีชา (เซ่ง) |
กวีที่นิยมใช้กลอนเก้า คือท่านพุทธทาสภิกขุ และท่านยังนิยมเขียนแยกตามจังหวะอ่าน ทำให้คนอ่านได้ถูกต้องตามจังหวะ อ่านง่ายและเข้าใจง่าย
ตัวอย่างศีลธรรมเลว คนก็ได้ กลายเป็นผี | หาความดี ไม่ประจักษ์ สักเส้นขน | |
ศีลธรรมดี ผีก็ได้ กลายเป็นคน | ที่เลิศล้น ภูมิใจ ไหว้ตัวเอง |
ศีลธรรมต่ำ เปลี่ยนคน จนคล้ายสัตว์ | จะกินกัด โกงกัน ขมันเขม็ง | |
ศีลธรรมสูง คนสดใส ไม่อลเวง | ล้วนยำเกรง กันและกัน ฉันเพื่อนตาย | |
— ศีลธรรมกับคน : พุทธทาสภิกขุ |
เมนูนำทาง
กลอนสุภาพ กลอน 9ใกล้เคียง
กลอนสุภาพแหล่งที่มา
WikiPedia: กลอนสุภาพ